Project X Pro – รุ่น Pro ที่ยกระดับจาก Project X เดิม
- P'Nick
- 12 minutes ago
- 2 min read
สวัสดีทุกคนครับ! 👋
เมื่อวันพุธที่แล้ว เราเพิ่งได้ลองจับ Project X เครื่องเกมพกพาทรงจอยเพลย์สเตชันที่มีหน้าจอติดอยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่แปลกใหม่และน่าสนใจ แม้จะไม่ได้แรงที่สุด แต่ก็นับว่าเป็นของเล่นที่คุ้มค่าในราคาย่อมเยา
และในสัปดาห์นี้ ผมก็ดีใจที่จะได้พาทุกคนมารู้จักกับ Project X Pro รุ่นที่ได้รับการอัปเกรดขึ้นมา ทั้งชิปที่แรงกว่า แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น มีสีใหม่ให้เลือก และยังมีลูกเล่นเล็กๆ ที่ทำให้ใช้งานจริงสนุกขึ้นอีกด้วย มาดูกันครับว่ารุ่น Pro นี้จะเปลี่ยนจากความแปลกให้กลายเป็นของจริงที่น่าเล่นได้หรือไม่
ดีไซน์และสีสัน
ภายนอก Project X Pro แทบจะเหมือนกับรุ่นปกติ ตัวเครื่องทรงคล้ายจอย DualSense ของ PS5 ที่มีหน้าจอ IPS ขนาด 4.3 นิ้ว ความละเอียด 800 × 480 อยู่ตรงกลาง แต่รอบนี้มีสีใหม่ให้เลือกถึงสามแบบ
Obsidian Black – ดำล้วน ดูดุดัน
Starry Blue – น้ำเงินอ่อนด้านนอก จับคู่กับสีขาวด้านในและด้านหลัง
Aurora Silver – เงินด้านนอก คู่กับสีขาวด้านในและด้านหลัง

ด้านหน้า ปุ่มยังเหมือนเดิมทั้งหมด ทั้งอนาล็อกคู่ ปุ่ม ABXY ในสไตล์ Xbox, D-pad และไหล่ซ้อน L1/L2 R1/R2
ความแตกต่างที่เห็นชัดคือ ไฟ LED Strip รอบตัวเครื่องที่เปลี่ยนสีได้ถึง 7 สี (แดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้า น้ำเงิน ม่วง) และยังมีไฟแดงเตือนเมื่อแบตใกล้หมดหรือกำลังชาร์จอยู่ด้วย

ขนาดเครื่องเท่าเดิมที่ 20 × 10 × 2.5 ซม. ไม่เล็กพกใส่กระเป๋าง่ายๆ แต่ก็ถือว่าไม่ใหญ่จนเกินไปสำหรับเครื่องเล่นเกมพกพา

ฮาร์ดแวร์ใหม่ – RockChip RK3326
อัปเกรดใหญ่ที่สุดคือ ชิปเซ็ต RockChip RK3326 ซึ่งมาพร้อมกับ CPU ARM Cortex-A35 แบบ Quad-Core และ GPU Mali-G31 MP2
เมื่อเทียบกับชิปรุ่นเก่า ATM7051 (Cortex-A9 + Mali-450) แล้ว RK3326 นั้นเหนือกว่าอย่างชัดเจน และจริงๆ แล้วเป็นชิปยอดนิยมที่เคยใช้ในเครื่องตระกูล Anbernic RG351 ด้วย

ประสิทธิภาพในโลกจริงคือ
เกม 8-bit, 16-bit และ Arcade เล่นได้ลื่นไหล
PlayStation 1 ทำได้ดีแบบไม่มีปัญหา
เกม N64, Dreamcast และ PSP เล่นได้บ้าง แต่ไม่ทุกเกม ถือว่าเกินคาดสำหรับราคา
รุ่น Pro มี RAM 1GB LPDDR3 น้อยกว่ารุ่นธรรมดาที่ให้มา 2GB แต่เพราะชิปแรงกว่ามาก ทำให้โดยรวมเล่นได้ดีกว่าเดิมชัดเจน

หน้าจอ พื้นที่เก็บข้อมูล และเกม
หน้าจอยังคงเป็น IPS 4.3 นิ้ว ความละเอียด 800 × 480 เช่นเดิม คมชัดพอสำหรับเกมเรโทร ไม่ได้สวยล้ำ แต่ก็เหมาะกับขนาดหน้าจอ
หน่วยความจำภายใน eMMC 8GB สำหรับระบบและเกมที่ติดตั้งมาให้เล็กน้อย แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ MicroSD 64GB ที่บันเดิลมาในกล่อง พร้อมเกมกว่า 10,000+ เกม

แต่ต้องบอกก่อนว่า คุณภาพของการ์ดนั้นไม่น่าไว้ใจนัก ควรเปลี่ยนเป็นการ์ดยี่ห้อที่เชื่อถือได้เอง เพื่อป้องกันปัญหาเสียหรือข้อมูลหาย ส่วนเกมที่ให้มาก็หลากหลาย แต่คุณภาพและความถูกต้องไม่สามารถยืนยันได้
แบตเตอรี่และพอร์ตเชื่อมต่อ
แบตเตอรี่อัปเกรดเป็น 3,200 mAh (จาก 2,500 mAh ในรุ่นปกติ) ใช้งานได้ประมาณ 4–5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ถือว่าโอเคกับจอเล็กและสเปกแบบนี้
พอร์ตต่างๆ ถูกจัดเรียงใหม่เล็กน้อย:
ด้านบนเรียงจากซ้ายไปขวา: L1, L2, ปุ่มพาวเวอร์, ปุ่มเพิ่มลดเสียง, พอร์ต USB-C สำหรับชาร์จ, ช่องหูฟัง 3.5 มม., พอร์ต USB-C OTG, ช่อง MicroSD, R1, R2
ด้านหลัง: ลำโพงสเตอริโอ กระจายซ้ายขวา และ ปุ่มรีเซ็ต อยู่กึ่งกลางด้านล่าง

โดยรวมใช้งานได้ครบเครื่องเกินคาดสำหรับราคานี้
ราคาและช่องทางการสั่งซื้อ
Project X Pro มีราคาอยู่ที่ประมาณ 29.90 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 1,090 บาท)
หรือหากอยากสนับสนุนผมโดยตรง สามารถสั่งซื้อผ่านลิงก์ Affiliate ได้ที่นี่
บทสรุป
Project X Pro คือเครื่องที่ควรเป็นตั้งแต่แรก ด้วยชิป RK3326 ทำให้กลายเป็นเครื่องเล่นเรโทรที่ใช้งานได้จริง แบตเตอรี่อึดขึ้น สีสันและไฟ LED ทำให้ดูสนุกและแตกต่างมากขึ้น
แน่นอนว่ายังมีข้อจำกัด เพราะยังเป็นเครื่องเรทราคาประหยัด การเล่น PSP หรือ Dreamcast ไม่ได้ดีทุกเกม และควรรีบเปลี่ยนการ์ด MicroSD ที่แถมมาเพื่อความปลอดภัย
แต่ด้วยราคาไม่ถึง 1,100 บาท มันก็เป็นเครื่องที่ให้ความคุ้มค่าน่าลอง และถือเป็นการก้าวที่ชัดเจนจาก Project X รุ่นก่อนหน้า
แล้วคุณคิดยังไงกับเครื่องเล่นเกมนี้บ้าง? มันน่าลองเล่นไหม หรือเป็นแค่เครื่องเล่นเกมย้อนยุคราคาประหยัดอีกเครื่องหนึ่งในตลาด? มาคุยกันในคอมเมนต์ด้านล่างหรือในฟอรัม สุ่มศูนย์ของ Handheld Hodgepodge ได้เลย!
แล้วเจอกันใหม่ครับ! 👋
พี่นิค ✨
Comments