รีวิว TrimUI Model S: โมเดลย้อนยุคเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยบุคลิกที่โดดเด่น

P'Nick
Aug 11
2 min read

สวัสดีทุกคนครับ! 👋

วันนี้ผมจะพามาทำความรู้จักกับเครื่องเกมพกพาขนาดจิ๋วที่หลายคนอาจจะมองข้าม แต่เมื่อได้ลองเล่นแล้วอาจทำให้คุณยิ้มแบบไม่รู้ตัว เครื่องนั้นก็คือ TrimUI Model S ครับ

ตอนที่ผมหยิบมันขึ้นมา สิ่งแรกที่ผมถามตัวเองคือ… นี่มันเป็นเครื่องเล่นเกมพกพาไว้ใช้ทุกวัน หรือเป็นอุปกรณ์เฉพาะทางสำหรับคนบางกลุ่มกันแน่? คำตอบนั้นเราจะค่อยๆ คลี่ออกในรีวิวนี้

อินโทรกราฟิก & เกริ่นรีวิว

(ตัดไปอินโทรกราฟิกประจำช่อง ก่อนเข้าสู่การรีวิวแบบจัดเต็ม)

1. ประสบการณ์แกะกล่อง – 40/69

กล่องของ TrimUI Model S ไม่ได้แข็งแรงนัก เพราะทำจากกระดาษการ์ดแข็งมันเงาแทนที่จะเป็นกระดาษลูกฟูก แต่ต้องบอกว่ากราฟิกและการออกแบบสวยสดใส ดึงดูดสายตาได้ดี ภายในกล่องก็ไม่มีอะไรซับซ้อน มีเพียงตัวเครื่องวางอยู่บนถาด, สาย USB-A to USB-C สำหรับชาร์จ และคู่มือสีสันสดใส (ดีกว่าหลายๆ เครื่องที่คู่มือขาวดำ)

แม้จะไม่ได้ให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนแบรนด์พรีเมียม แต่ต้องยอมรับว่า การใส่คู่มือสีมาให้ถือว่าเหนือกว่ามาตรฐานของเครื่องในระดับเดียวกัน ทำให้ผมให้คะแนนส่วนนี้ 40/69 ซึ่งถือว่าดีสำหรับหมวดนี้

2. สเปกภายใน – 29/69

TrimUI Model S มาพร้อมสเปกดังนี้ พร้อมข้อดีหรือข้อสังเกตของแต่ละจุด:

ชิปประมวลผล Actions ATM7051 – เป็นซีพียู Quad-Core ARM Cortex-A9 ที่วางตลาดมานานแล้ว ประสิทธิภาพพอเล่นเกมเครื่องรุ่นเก่าได้ดี แต่ไม่เหมาะกับเกม 3D รุ่นใหม่หรือเครื่องยุคหลัง GBA
จีพียู Vivante GC860 – เหมาะกับการประมวลผลกราฟิก 2D และเกม 16-bit แต่ไม่แรงพอสำหรับงานกราฟิกหนัก
แรม 64MB DDR3 – เพียงพอกับระบบและเกมยุคเก่า แต่ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับเครื่องสมัยนี้
หน้าจอ 2 นิ้ว IPS ความละเอียด 320×240 – สีสันสวย คมชัดในระดับหนึ่ง แต่ขนาดเล็กมาก เหมาะกับเกมพิกเซลยุคเก่า
พื้นที่เก็บข้อมูล microSD 32GB/64GB – เพียงพอสำหรับเกม 8-bit และ 16-bit หลายพันเกม สามารถเปลี่ยนการ์ดได้
แบตเตอรี่ 600mAh – เล่นได้ราว 3–4 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ขึ้นอยู่กับความสว่างและเกมที่เล่น
ขนาด 93×43×~9 มม. – เล็กกว่าจอย NES ดั้งเดิม ทำให้พกง่ายแต่ก็ต้องแลกกับความสะดวกในการควบคุม

ด้วยสเปกแบบนี้ เครื่องจะเริ่มมีปัญหากับเกม GBA ขึ้นไป แต่ทำงานได้ลื่นไหลกับเกมยุค 16-bit และต่ำกว่า ซึ่งก็สมเหตุสมผลกับขนาดและราคาของมัน ดังนั้นผมให้หมวดนี้ 29/69

3. ความประทับใจแรก – 40/69

นี่คือเครื่อง ไมโครแฮนด์เฮลด์ เครื่องแรกของผม และแค่เห็นมันก็ทำให้ผมยิ้มได้ เหมือนถูกพากลับไปสมัยเด็ก ปุ่มกดเป็นแบบคลิก (micro switch) ให้ความรู้สึกเหมือนปุ่มเมาส์ มีปุ่มไหล่ข้างละปุ่มเดียว ขนาดเล็กกว่าของ SNES มาก ทำให้เหมาะกับเกม 16-bit ลงมา

หน้าจอเล็กจิ๋วดูแปลกตา ราวกับได้กลับไปยุคโทรศัพท์ฝาพับ เสียงลำโพงไม่ได้พิเศษ แต่ถือว่าดีเมื่อเทียบกับขนาดเครื่อง โดยรวมผมให้ 40/69 สำหรับความรู้สึก “สนุกแบบไม่คาดคิด”

4. ความง่ายในการใช้งาน – 35/69

TrimUI Model S ใช้สวิตช์เปิดปิดแทนปุ่มกด ไม่มีปุ่มปรับเสียงแบบฮาร์ดแวร์ ต้องปรับในซอฟต์แวร์เท่านั้น การกดปุ่ม Start + Select + Menu เพื่อปรับเสียงก็ไม่ยาก แต่ไม่สะดวกเท่าปุ่มแยก

ในเมนูมีหมวด “Games” แต่เกมเรโทรดันอยู่ในหมวด “Retro Game” แยกต่างหาก ซึ่งอาจงงในตอนแรก แต่เรียนรู้ได้ไม่ยาก การเข้าและออกเกมก็ถือว่าทำได้ตรงไปตรงมา จึงให้คะแนน 35/69

5. การปรับแต่ง – 35/69

สามารถติดตั้งเฟิร์มแวร์แบบกำหนดเอง เช่น MinUI รุ่นพิเศษ และยังมีอุปกรณ์เสริมอย่างเคสที่ขายบน Etsy ถึงจะมีความสามารถปรับแต่งได้มากกว่าเครื่องบางรุ่น แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นสูงสุด จึงให้ 35/69

6. การควบคุม – 34/69

ปุ่มทั้งหมดเป็นแบบไมโครสวิตช์ ให้ความรู้สึกคลิกชัดเจน แต่สำหรับคนที่ชอบปุ่มเมมเบรนแบบผม อาจไม่ถูกใจนัก ปุ่มไหล่เล็กที่สุดในบรรดาปุ่มทั้งหมด และผมอยากให้มันใหญ่กว่านี้ ปุ่มพาวเวอร์เป็นสวิตช์ และไม่มีการปรับเสียงแบบปุ่มหมุนหรือสไลด์

ถึงอย่างนั้น เครื่องก็ยังรู้สึกดีในมือเมื่อพิจารณาว่ามันเล็ก บาง และเบากว่าจอย NES ดั้งเดิมเสียอีก ผมจึงให้ 34/69

7. ความคุ้มค่า – 30/69

ราคามีความแตกต่างมาก ขึ้นอยู่กับร้านและอุปกรณ์ที่ให้ บางร้านใน AliExpress ขายสีเดียวในราคา 20 ดอลลาร์ บางร้านขายทุกสีพร้อม microSD 64GB ที่ราว 60 ดอลลาร์ ผมซื้อสีแดงที่ชอบที่สุด พร้อมการ์ด 32GB ในราคา 27 ดอลลาร์

แบรนด์อย่าง Powkiddy และ Anbernic มีเครื่องที่หน้าจอใหญ่กว่าและปุ่มเงียบกว่าในราคาใกล้เคียง แต่ TrimUI Model S ได้คะแนนจากความคล้ายจอย NES ทำให้มีคุณค่าด้านความทรงจำ เหมาะสำหรับหยิบมาเล่นสั้นๆ เช่น 5–10 นาที ดังนั้นผมให้ 30/69

สรุปคะแนน

แกะกล่อง: 40/69
สเปกภายใน: 29/69
ความประทับใจแรก: 40/69
ความง่ายในการใช้งาน: 35/69
การปรับแต่ง: 35/69
การควบคุม: 34/69
ความคุ้มค่า: 30/69

คะแนนเฉลี่ยรวม: 35/69

ข้อดี

ขนาดเล็ก พกง่าย
หน้าจอ IPS สีสวย
ปุ่มคลิกตอบสนองไว
มีความเป็นเอกลักษณ์ เหมาะเป็นของตั้งโชว์

ข้อสังเกต

ไม่เหมาะกับเกมเกิน 16-bit
ปุ่มไหล่เล็กมาก
ไม่มีปุ่มปรับเสียงฮาร์ดแวร์
แบตเตอรี่ไม่อึดมาก

เหมาะกับใคร

คนที่ชอบสะสมเครื่องเกมจิ๋ว
คนที่เล่นเกมยุค 8-bit และ 16-bit เป็นหลัก

ไม่เหมาะกับใคร

คนที่อยากเล่นเกม 3D หรือเครื่องยุคใหม่
คนที่ต้องการจอใหญ่และปุ่มแบบเมมเบรน

รีวิวสรุป

ตอนเริ่มผมสงสัยว่าเครื่องนี้เป็นเครื่องใช้ทุกวันหรือเครื่องเฉพาะทาง หลังจากได้ลองเล่น ผมว่า… มันคือของเล่นสนุกๆ สำหรับหยิบมาเล่นสั้นๆ และเป็นบทสนทนาดีๆ เวลามีคนเห็นมันบนโต๊ะทำงานของคุณ