สร้างเครื่องเล่นเกมพกพาในฝันของผม: ทำไมหน้าจอ 4:3 OLED, ปุ่มถอดสลับได้ และ Integer Scaling ที่สมบูรณ์ถึงเปลี่ยนทุกอย่าง
- P'Nick

- Oct 12
- 3 min read
สวัสดีทุกคนครับ! 👋
เปิดบท: ภารกิจตามหาเครื่องเล่นเกมพกพาที่สมบูรณ์แบบ
ลองนึกภาพดูสิครับ ถ้าเราสามารถเอาข้อดีของเครื่องเล่นเกมพกพาแต่ละรุ่นบนตลาดมารวมกัน แล้วสร้างเป็นเครื่องเดียวที่รวมทุกอย่างที่ดีที่สุดไว้ในมือเราได้ มันจะเป็นยังไงกันนะ?
นี่แหละครับคือสิ่งที่ผมตั้งใจจะออกแบบในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ฝันลมๆ แล้งๆ แต่ทุกอย่างที่ผมพูดถึงในบทความนี้เกิดจากประสบการณ์จริงกับเครื่องที่ผมมีและชอบใช้ ไม่ว่าจะเป็นจอย PS5 DualSense, Anbernic RG35XX Pro, Retroid Pocket 5, Helegaly Action Pi, Ayaneo 3 หรือ AYN Odin 2 Portal
วันนี้ผมจะพามาเจาะลึกเบื้องหลังการออกแบบ “เครื่องเล่นเกมพกพาในฝันของผม” โดยเฉพาะเหตุผลว่าทำไมผมถึงยืนยันว่า “หน้าจอ OLED ขนาด 6 นิ้ว อัตราส่วน 4:3 ความละเอียด 1920x1440” คือหัวใจสำคัญที่ทำให้เครื่องนี้สามารถเล่นได้ทั้งเกมยุคใหม่และเกมคลาสสิกได้อย่างสมบูรณ์
ระบบควบคุม: รากฐานของประสบการณ์เกมที่ดี
แรงบันดาลใจจากจอย PS5 DualSense
เริ่มจากสิ่งที่เราสัมผัสมากที่สุดตอนเล่นเกมก่อนเลยครับ — “ปุ่มควบคุม” ผมเป็นแฟนตัวยงของจอย PS5 DualSense มาก เพราะ D-pad, ปุ่มกด, และแท่งอนาล็อกของมันให้สัมผัสที่พอดี น้ำหนักกำลังดี และตอบสนองได้ไวแบบสุดๆ

ดังนั้น เครื่องในฝันของผมก็ต้องใช้ปุ่มและแท่งอนาล็อกแบบเต็มขนาดเหมือนกัน ไม่ใช่แบบจิ๋วที่รู้สึกหลวมๆ แต่ให้ความรู้สึกเหมือนจับจอยคอนโซลจริงๆ อยู่ในมือ
ปุ่มแบบสลับตำแหน่งได้ (Hot-Swap Controls แบบ Ayaneo 3)
ทีนี้จุดที่สนุกจริงๆ อยู่ตรงนี้ครับ ผมรู้ว่ามีหลายคนที่ไม่ชอบเลย์เอาต์แบบ PlayStation ที่ D-pad อยู่ด้านบน แต่ชอบแบบ Xbox ที่แท่งอนาล็อกอยู่บนแทน
Ayaneo 3 เคยแก้ปัญหานี้ได้อย่างฉลาด ด้วยการทำ “โมดูลควบคุมที่สามารถหมุนกลับด้านได้ 180 องศา”
ผมอยากให้เครื่องในฝันของผมทำได้แบบนั้น แต่ยกระดับไปอีกขั้น!

จะมีสวิตช์เลื่อนอยู่ที่ด้านหน้าของเครื่อง ที่ให้คุณเลือกได้เลยว่าต้องการเลย์เอาต์แบบไหน — หมุนโมดูลฝั่งซ้ายหรือขวาแล้วเสียบกลับเข้าไป ระบบกลไกภายในจะตรวจจับได้เองทันทีว่าคุณหมุนไว้ทิศไหน แล้วระบบก็จะสลับปุ่มให้อัตโนมัติเลยโดยไม่ต้องตั้งค่าอะไรในซอฟต์แวร์ทั้งนั้น
สรุปคือ คุณจะเปลี่ยนรูปแบบได้สามแบบทันที
แบบ PlayStation: D-pad อยู่ซ้ายบน, อนาล็อกซ้ายอยู่ล่าง
แบบ Xbox: อนาล็อกอยู่ซ้ายบน, ปุ่มอยู่ขวาบน
แบบ “อนาล็อกคู่บน”: ทั้งสองแท่งอนาล็อกอยู่ด้านบน
ปุ่มเงียบแต่สัมผัสดีแบบ Anbernic
ผมต้องพูดถึงเรื่องนี้ครับ ใครที่เคยใช้ Anbernic RG35XX Pro จะรู้เลยว่าปุ่มของมัน “เงียบแต่นุ่ม” แค่ไหน เวลาเล่นเกมตอนกลางคืนเสียงไม่ดังรบกวนคนอื่นเลย แต่ยังรู้สึกถึงแรงตอบสนองที่ชัดเจน

ดังนั้นในเครื่องในฝันของผม ปุ่มทั้งหมดทั้ง D-pad และปุ่มหลัก จะใช้เทคโนโลยีปุ่มเงียบแบบเดียวกัน เพื่อให้ได้ฟีลสัมผัสที่ดีแต่ไม่รบกวนใคร
หน้าจอ: ทำไม 6 นิ้ว 4:3 ที่ความละเอียด 1920x1440 ถึงคือความอัจฉริยะ
อันนี้แหละครับหัวใจของเครื่องนี้ ผมจะเล่าให้ฟังว่าทำไมผมถึงเลือกสเปกนี้ และมันดียังไงทั้งกับเกมยุคเก่าและเกมยุคใหม่
ความกว้าง: เรียนรู้จาก Retroid Pocket 5
Retroid Pocket 5 มีหน้าจอ 5.5 นิ้ว อัตราส่วน 16:9 ที่สวยมาก และความกว้างของมันกำลังพอดีเลยครับ ไม่รู้สึกแคบหรือยาวเกินไป
ดังนั้นผมจึงอยากให้เครื่องของผมมีความกว้างพอๆ กัน เพียงแต่ปรับอัตราส่วนให้เหมาะกับเกมเรโทรมากขึ้น

อัตราส่วนภาพ 4:3: บทเรียนจาก Helegaly Action Pi
ส่วนใหญ่เกมคลาสสิกสมัยก่อนจะออกแบบมาให้เล่นในอัตราส่วน 4:3 ครับ พอเราเอาไปเล่นบนหน้าจอ 16:9 ภาพมันก็จะมีแถบดำสองข้าง หรือถ้าไม่อยากให้มี ก็ต้อง “ยืดภาพ” ซึ่งดูแปลกมาก

Helegaly Action Pi ทำให้ผมนึกถึงความจริงข้อนี้อีกครั้ง และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงอยากกลับไปใช้อัตราส่วน 4:3
ความสูง: เทียบกับ AYN Odin 2 Portal
AYN Odin 2 Portal ใช้หน้าจอ 7 นิ้ว 16:9 ที่มีพื้นที่แนวตั้งดีมาก ผมเลยลองคำนวณดูว่าถ้าผมใช้จอ 6 นิ้วแต่เป็น 4:3 จะได้พื้นที่แนวตั้งที่ใกล้เคียงหรือไม่

ผลคือ... หน้าจอ 6 นิ้ว 4:3 ที่ความละเอียด 1920x1440 จะมี “จำนวนพิกเซลแนวตั้ง” มากกว่าจอ 7 นิ้ว 16:9 ของ Odin 2 Portal เสียอีกครับ!
และถ้าเราเล่นเกม 16:9 ก็จะเห็นภาพเท่ากับจอ 5.5 นิ้วแบบ Retroid Pocket 5 พอดี เพียงแต่จะมีแถบดำบนล่างแทนแถบด้านข้าง
เวทมนตร์ของสัดส่วนภาพ: หน้าจอเดียวเล่นได้ทุกอัตราส่วน
หน้าจอขนาด 6 นิ้ว 4:3 ที่ความละเอียด 1920x1440 จะสามารถแสดงภาพได้แบบนี้ครับ
4:3 (เต็มจอ): NES, SNES, PS1, N64, Dreamcast
16:9 (มีแถบดำบนล่าง): เกมยุคใหม่, วิดีโอ, เกม Android
3:2 (แถบดำเล็กน้อย): Game Boy Advance
แนวตั้ง (TATE Mode): เกมแนวชู้ตอัพหรืออาเขตแนวตั้ง เช่น Galaga, 1942
สรุปคือจอนี้แสดงผลได้ทุกแบบโดยไม่ต้องยืดหรือบีบภาพให้เสียสัดส่วนเลยครับ
ทำไมต้องเป็น LTPO OLED 120Hz
ผมเลือกใช้จอ LTPO OLED ที่สามารถปรับรีเฟรชเรตได้ตั้งแต่ 1Hz ถึง 120Hz เหตุผลก็คือ
ถ้าเล่นเกมช้าๆ อย่างเกมเทิร์นเบส จอก็จะลดรีเฟรชเรตลงเพื่อประหยัดแบต
ถ้าเล่นเกมแอ็กชันเร็วๆ จอก็จะปรับขึ้นเป็น 120Hz เพื่อให้ภาพลื่นสุดๆ
สีดำสนิทและคอนทราสต์สูง ทำให้ภาพพิกเซลของเกมเรโทรดูมีชีวิตชีวามาก
เกมยุคเก่าอย่าง 60Hz ก็หารลงตัวกับ 120Hz พอดี ไม่มีอาการกระตุก
Integer Scaling: ความฝันของนักเล่นเกมเรโทร
ตอนนี้มาถึงหัวใจเทคนิคของนักเล่นเกมเรโทร — Integer Scaling หรือการปรับขนาดภาพแบบจำนวนเต็ม ซึ่งสำคัญมากเพราะทำให้พิกเซลของเกมแสดงผลแบบสมบูรณ์ ไม่เบลอ
Integer Scaling คืออะไร?
Integer Scaling หมายถึงการเอาพิกเซลดั้งเดิมของเกมไปขยายเป็นพิกเซลบนหน้าจอแบบ ตัวคูณจำนวนเต็ม เช่น เกม 240p ถ้าใช้ 6x integer scaling พิกเซลแต่ละตัวจะกลายเป็นบล็อก 6x6 บนหน้าจอ ทำให้ภาพคมชัดเทียบเท่ากับความละเอียด 1440p
ตัวอย่างการปรับพิกเซลแบบสมบูรณ์บนจอ 1920x1440
NES (256x240)
Native resolution: 256x240
Integer scale 6x → 1536x1440
ใช้ความสูงเต็มจอ 1440 pixels
มีแถบดำข้างเล็กน้อย
ภาพพิกเซลจัตุรัส คมชัด

SNES (256x224)
Integer scale 6x → 1536x1344
Small black bars รอบจอ
ใช้กับเกมอย่าง Super Mario World, Chrono Trigger ได้พอดี

Game Boy / Game Boy Color (160x144)
Integer scale 10x → 1600x1440
Small black bars ข้างจอ
พิกเซลใหญ่ชัดเจนสุดๆ

Game Boy Advance (240x160)
Integer scale 8x → 1920x1280
ใช้ความกว้างเต็มจอ 1920 pixels
แถบดำบนล่าง 160 pixels
พื้นที่จอประมาณ 5.76 นิ้ว

Sega Genesis / Mega Drive (320x224)
Integer scale 6x → 1920x1344
ใช้ความกว้างเต็มจอ
Sonic ดูดีขึ้นมาก

PlayStation 1 / Nintendo 64 / Dreamcast / Neo Geo / Arcade / PC Engine / TurboGrafx-16 / Atari 2600
ทุกเครื่องปรับพิกเซลแบบ integer scaling ได้สมบูรณ์ตามขนาดหน้าจอ
เกมทุกเกมจะได้ภาพคมชัด ไม่ยืดหรือบีบ

Vertical Arcade Games (TATE Mode)
หมุนเครื่อง 90 องศา
แสดงผลแนวตั้งพร้อมแถบดำซ้ายขวา (pillarboxing)
เกมแนวชู้ตอัพคลาสสิกอย่าง DonPachi, Galaga, 1942 เล่นได้เหมือนเครื่องอาเขตแท้

ระบบเสียง: Dual-Driver System
เสียงดีเป็นเรื่องสำคัญนะครับ ไม่ควรมองข้าม
ลำโพงสเตอริโอ (กลาง-สูง)
วางเหนือโมดูลปุ่มสลับได้
ให้เสียงชัดโดยไม่โดนมือบัง
ซับวูฟเฟอร์ (เบส)
ขนาด 0.5 นิ้ว วางเอียงลงด้านในของจุดจับ
เสียงเบสสะท้อนผ่านตัวเครื่อง
ให้ประสบการณ์ 4-Channel เหมือนเครื่องเกมจริง
ผลคือเกมเช่น DOOM, เกมแข่งรถ หรือเกมดนตรีจะสนุกขึ้นมาก
Layout ปุ่มและ Ergonomics
แถวบน (เหนือสเตอริโอ)
ซ้าย: ปุ่ม Select
ขวา: ปุ่ม Start
ตำแหน่งกลาง (ใต้แท่งอนาล็อกใน PS Mode)
ซ้าย: Home (Android Home)
ขวา: Back (Android Back)
ปุ่มทุกตัวเข้าถึงง่ายโดยไม่รบกวนการเล่นเกม
Triggers: สลับระหว่าง Analog และ Hair Trigger
สำหรับผู้เล่น FPS หรือเกมแข่งรถ ความต้องการต่างกัน
Analog Mode: แรงกดเต็มช่วง สำหรับคอนโทรลละเอียด
Hair Trigger Mode: กดน้อย ตอบสนองเร็ว สำหรับ FPS

มีสวิตช์ด้านข้าง trigger ให้สลับทันที ไม่ต้องเข้าเมนู
สเปกหลัก: ไม่มีการลดคุณภาพ
System on Chip (SoC)
Snapdragon G3 Gen 3
เหมาะกับเกมเรโทรและ Android
รองรับการจำลองเครื่อง PS2, GameCube และบางเกม PS3
ประหยัดพลังงาน
Snapdragon 8 Elite Gen 5 (รุ่นอนาคต)
ประสิทธิภาพสูงสำหรับเกม AAA
รองรับการจำลองเครื่องรุ่นใหม่และ Android
การจัดการความร้อนดีขึ้น

ทั้งสองรุ่นมาพร้อม Wi-Fi, Bluetooth และการเชื่อมต่อสมัยใหม่
Memory Configurations
Entry Tier: 12GB RAM / 512GB Storage
เกมเรโทรและ Android พื้นฐาน
รองรับ microSD คู่
Mid Tier: 16GB RAM / 512GB Storage
เหมาะกับผู้ใช้ส่วนใหญ่
เล่นเกมและ multitasking ได้สบาย
Premium Tier: 24GB RAM / 1TB Storage
สำหรับ power user
รองรับหลาย emulator พร้อมกัน
ระบบปฏิบัติการ
Android 16 หรือเวอร์ชันล่าสุด
รองรับ Emulator ทุกชนิด
รองรับเกม Android
รองรับแอปสตรีมมิ่งและการปรับแต่งเต็มรูปแบบ

ระบบระบายความร้อน: Split Exhaust Design
Air Intake: ด้านหลัง ขนาดใหญ่พอสมควร ไม่โดนมือบัง
Split Exhaust: ช่องระบาย 2 ช่องด้านบน
ระบายความร้อนทั่วถึง ไม่สะสมความร้อนในจุดเดียว
ช่วยให้ SoC ทำงานเต็มประสิทธิภาพแม้เล่นเกมหนัก
การเชื่อมต่อ: ยืดหยุ่นสุดๆ
USB-C ด้านล่าง
วางตรงกลางสำหรับชาร์จและถ่ายโอนข้อมูล
รองรับ dock ชาร์จพิเศษ
สามารถวางเครื่องตรงๆ บน dock เพื่อชาร์จได้เลย
USB-C 4 ด้านบน
ความเร็ว Thunderbolt 3 เต็มรูปแบบ
ส่งสัญญาณภาพ HDMI 2.1, 4K60Hz
รองรับ DisplayPort Alt Mode
สามารถชาร์จได้พร้อมใช้งาน
ช่องหูฟัง 3.5mm
วางด้านล่าง
ใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้ Dongle
ช่องใส่ microSD คู่
ขยายได้สูงสุด 2TB ต่อช่อง (รวม 4TB)
ถอดสลับได้ง่าย ไม่ต้องลบเกมเพื่อเพิ่มพื้นที่
ความเป็นจริง: ราคาและความเป็นไปได้
ต้องยอมรับเลยว่า เครื่องนี้ไม่ใช่เครื่องราคาถูกครับ ด้วยฟีเจอร์ทั้งหมด ผมประเมินราคาไว้ประมาณ
Entry (12GB/512GB, SD G3 Gen 3): $450-$500
Mid (16GB/512GB, SD G3 Gen 3): $550-$600
Premium (24GB/1TB, SD 8 Elite Gen 5): $700-$750
แพงไหม? ใช่ แต่พิจารณาสิ่งที่คุณจะได้
หน้าจอ OLED คุณภาพสูง รองรับทั้งเกมเรโทรและยุคใหม่
ปุ่มสลับได้พร้อมกลไกตรวจจับอัตโนมัติ
ระบบเสียง Dual-Driver
งานประกอบคุณภาพพรีเมียม
สเปกเต็มๆ ไม่มีลดคุณภาพ

นี่คือเครื่องสำหรับผู้ที่รักการเล่นเกมพกพาแบบสุดใจ จะสู้กับ Ayaneo รุ่นท็อปและ AYN พรีเมียมได้สบาย
Call to Action: มาช่วยกันทำให้มันเกิดขึ้น
ผมอยากเรียก Ayaneo, AYN, และ Anbernic มาช่วยกันครับ
Ayaneo: คุณคือผู้บุกเบิกปุ่มสลับได้
AYN: งานประกอบและหน้าจอของคุณสุดยอด
Anbernic: คุณเชี่ยวชาญเรื่องคุณภาพราคาดีและปุ่มเงียบ
ใครก็สร้างเครื่องนี้ได้ ผมยินดีช่วย brainstorm, แก้ปัญหาวิศวกรรม และทำให้ฝันนี้เป็นจริง
ชุมชนเกมพกพาสมควรมีเครื่องที่ไม่ลดคุณภาพ
สรุป: รวมข้อดีทุกโลก
เครื่องในฝันของผมไม่ได้เน้นแค่หน้าจอใหญ่หรือซีพียูแรงสุด แต่เน้น การออกแบบที่คิดถึงทั้งเกมเก่าและเกมยุคใหม่
หน้าจอ 6 นิ้ว 4:3 ความละเอียด 1920x1440: เล่นเกมเรโทรเต็มจอ, เล่นเกม 16:9 แบบ Letterbox, เล่น GBA แบบใกล้เต็มจอ
ปุ่มสลับได้, ปุ่มเงียบ, ระบบเสียง Dual-Driver
สเปกเต็มไม่มีลดคุณภาพ
นี่คือที่สุดของเครื่องเล่นเกมพกพาสำหรับผู้คลั่งไคล้เหมือนเรา
ชวนคุณมาร่วมแชร์ความคิด
คุณให้ความสำคัญกับฟีเจอร์ไหนมากที่สุด? อยากเปลี่ยนอะไรในดีไซน์นี้ไหม? มาแลกเปลี่ยนกันในคอมเมนต์ เผลอๆ เราอาจได้จับใจผู้ผลิตจริงๆ
จนกว่าจะพบกันใหม่ เล่นเกมพกพาอย่างสนุกสนาน และจำไว้ว่าพวกเราทุกคนอยู่ในชุมชนเกมพกพาเดียวกัน 👋
P’Nick ✨
เข้าร่วมชุมชน P’Nick’s Handhelds
🌐 เยี่ยมชม: pnicks-handhelds.com สำหรับรีวิว ข่าว และการพูดคุย
🔔 สมัครสมาชิก: ช่อง YouTube สำหรับรีวิววิดีโอและเจาะลึก
💬 แชร์ความคิดเห็น: เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
🎁 ของรางวัล: ผู้สมัครสมาชิกมีสิทธิ์ลุ้นของรางวัลในอนาคต
หมายเหตุ
สเปกและฟีเจอร์ทั้งหมดเป็น แนวคิดเครื่องในฝัน ยังไม่มีผู้ผลิตใดประกาศอย่างเป็นทางการ ราคาประเมินมาจากการวิเคราะห์ตลาดเครื่องพกพาพรีเมียมปัจจุบัน



Comments